วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

อนุทิน 6

ตอบคำถามต่อไปนี้ (1-3 พ.ร.บ.ภาคบังคับ, 4 พ.ร.บ.บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ)


1.เหตุผลทำไมต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545
ตอบ เหตุผลที่เราต้องศึกษาพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 กฎหมายได้กำหนดให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองมีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูและได้รับการศึกษาภาคบังคับจำนวนเก้าปี โดยให้เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุ เว้นเเต่จะสอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ

2.ท่านเข้าใจความหมายตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 อย่างไร
ก.ผู้ปกครอง

ตอบ  ผู้ปกครอง หมายถึง บิดา มารดา หรือบิดาหรือมารดาหรือบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือบุคคลที่เด็กอยู่รับใช้ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจการปกครองหรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายเเพ่งเเละพาณิชย์

ข.เด็ก
ตอบ 
เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กที่สอบเข้าได้ปีที่เก้าของชั้นของการศึกษาภาคบังคับแล้ว


ค.การศึกษาภาคบังคับ
ตอบ  การศึกษาภาคบังคับคือ การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ

ง.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตอบ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคือ องค์กรส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด


 3.กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษอย่างไร และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน
ตอบ   ผู้ปกครองเด็กต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทและถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษา ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาเมื่อผู้ปกครองร้องขอ และสถานศึกษา มีอำนาจผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้


อนุทิน 5

บทที่ 3
แบบฝึกหัดทบทวน

1. นักศึกษาอธิบายคำนิยามต่อไปนี้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542
ก.การศึกษา
ตอบ  การศึกษา" หมายความว่า กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม โดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์ จรรโลง ความก้าวหน้าทางวิชาการ
ข. การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตอบ    กาาศึกษาขั้นพื้นฐานคือ   การศึกษาก่อนก่อนระดับอุดมศึกษา
ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ตอบ การศึกษาตลอดชีวิต" หมายความว่า การศึกษาที่สามมารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยเกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย
ง. มาตรฐานการศึกษา 
  ตอบ มาตรฐานการศึกษา หมายความว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะคุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง และเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับส่งเสริมและกำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมิน และการประกันคุณภาพทางการศึกษา
จ. คุณภาพภายใน
ตอบ "การประกันคุณภาพภายใน" หมายความว่า การประเมินผลและการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรือหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษานั้น
ช. การประกันคุณภาพภายนอก
ตอบ "การประกันคุณภาพภายนอก" หมายความว่า การประเมินและติดตาม ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจากภายนอก โดยสำนักรับรองมาตรฐานและการประเมินคุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกล่าวรองรับ เพื่อเป็นการประกันคุณภาพ และให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของสถานศึกษา
ซ. ผู้สอน
ตอบ "ผู้สอน" หมายความว่า ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ
ฌ. ครู
ตอบ "ครู" หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพ ซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน

ญ. คณาจารย์
ตอบ "คณาจารย์" หมายความว่า บุคลากร ซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาและระดับปริญญาของรัฐและเอกชน
ฐ. ผู้บริหารสถานศึกษา
ตอบ "ผู้บริหารสถานศึกษา" หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพที่ทำหน้าที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาแต่ละแห่งของรัฐและเอกชน
ฒ. ผู้บริหารการศึกษา
ตอบ "ผู้บริหารการศึกษา" หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป
ณ. บุคลากรทางการศึกษา
ตอบ "บุคลากรทางการศึกษา" หมายความว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา รวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศและการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ
 
2.ความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษานี้อย่างไรบ้าง ให้อธิบาย
ตอบ  ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา" การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรม ในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
"หลักการจัดการศึกษา" มี 3 ประการ(มาตรา 8) คือ
(1) เป็นการศึกษาตลอกชีวิตสำหรับประชาชน
(2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง



3.หลักการจัดการศึกษาประกอบด้วยอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ      หลักการจัดการศึกษาประกอบด้วย


((1)เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชนน
(2) ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
(3) การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
 
4. การจัดระบบ โครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษา ตามที่กฎหมายกำหนดมีอะไรบ้าง
ตอบ การจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักดังนี้ (มาตรา 9)
(1) มีเอกภาพด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
(2) มีการกระจายอ านาจ ไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและองคก์รปกครองส่วนท้องถิ่น
(3) มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา
(4) มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา และการพัฒ นาครูคณาจารยแ์ละบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
(5) ระดมทรัพยากร จากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ในการจดัการศึกษา
(6) การมีส่วนร่วม ของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวชิาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น

5.สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา ที่กำหนดไว้ในกฎหมายมีอะไรบ้าง
ตอบ "สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา" มีดังนี้
(1) การจัดการศึกษา ต้องจัดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกัน ในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี อย่างทั่วถึง มีคุณภาพ และไม่เก็บค่าใช้จ่าย
(2) บุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ผู้ด้อยโอกาสและผู้มีความสามารถพิเศษ มีสิทธิได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ
(3) พ่อแม่ ผู้ปกครอง บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์เอกชน สถานประกอบการ สถาบันศาสนาและสถาบันอื่นๆ มีสิทธิจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่บุตรหลานของตนหรือบุคคลทั่วไป ผู้จัดการศึกษาดังกล่าว มีสิทธิได้รับการสนับสนุนและเงินอุดหนุนจากรัฐ รวมทั้งได้รับการลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นภาษี ตามที่กฎหมายกำหนด



6.ระบบการศึกษามีกี่รูปแบบแต่ละรูปแบบมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ
"ระบบการศึกษา" มี 3 รูปแบบ ดังนี้
(1) การศึกษาในระบบ มีการกำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาการศึกษา การวัดประเมินผล
(2) การศึกษานอกระบบ มีการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบวิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลา การวัดผลประเมินผล
(3) การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษา ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม

7.การจัดการศึกษาในระบบมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ "การจัดการศึกษาในระบบ" มี 2 ระดับ คือ
(1) การศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจัดไม่น้อยกว่า 12 ปี ก่อนระดับอุดมศึกษา
(2) การศึกษาระดับอุดมศึกษา แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับต่ำกว่าปริญญา และระดับปริญญา

8.สถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลเป็นอย่างไร
ตอบ "สถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคล" เป็นโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา ที่กฎหมายยอมรับให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ภายในขอบวัตถุประสงค์ มีสิทธิและหน้าที่ตามบทบัญญัติกำหมายแพ่งและพาณิชย์และกฎหมายอื่น ซึ่งกำหนดสิทธิและหน้าที่ของสถานศึกษาไว้เป็นการเฉพาะ

9.แนวทางการจัดการศึกษามีหลักยึดอะไรบ้าง
ตอบ "แนวทางการจัดการศึกษา" มีหลักยึดว่าทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ให้ถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด และต้องให้แต่ละคนสามารถพัฒนาตามความถนัด ความสนใจและเต็มศักยภาพของเขา

10.ท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่าที่กำหนดให้ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ทั้งรัฐและเอกชนจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพ
ตอบ เห็นด้วย เพราะว่าดิฉันคิดว่าบุคคลที่มีใบประกอบวิชาชีพจะมีความเป็นครูมากกว่าและมีจรรยาบรรณมากกว่าด้วยเพราะได้เรียนรู้ได้ปลูกฝังเกี่ยวกับวิชาชีพครูมากกว่า  ถ้าไม่มีใบประกอบวิชาชีพนั้น จะทำให้เห็นว่าใครจะมีก็ได้ที่เข้ามาเป็นครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ซึ่งเข้ามาเป็นกันง่ายๆ แต่ไม่มีความลึกซึ้งทางวิชาชีพ

11.มีวิธีการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาการศึกษาในท้องถิ่นของท่านได้อย่างไร
ตอบ มีการใช้ทรัพย์ยากรในท้องถิ่นไปใช้ในการศึกษาหรือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


12.การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มีวิธีการพัฒนาได้อย่างไร
ตอบ มีการสร้างสื่อที่ทันสมัยและมีการดัดแปรงสื่อทีมีอยูแล้วนำมาผลิตให้ดีกว่าเดิม





 



วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

อนุทิน 4


บทที่

 แบบฝึกหัดทบทวน

เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาบทเรียนนี้แล้ว จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1. ใครเป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกและมีเหตุผลอย่างไร และประเด็นที่
เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเป็นอย่างไร อธิบาย
           ตอบ ผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกคือ สมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปกฯ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7  มีเหตุผลเกี่ยวประเด็นเกี่ยวกับการจัดการศึกาษาว่า "บัดนี้การศึกษาสูงขึ้นแล้ว มีข้าราชการประกอบด้วยวุฒิปรีชาในรัฐภิปาลนโยบายสามารถนำประเทศของตน ในอันที่จะก้าวหน้าไปสู่สากลอารายธรรมแห่งโลกโดยสวัสดี สมควรแล้วที่จะพระราชทานพระบรมวโรกาส ให้ข้าราชการและประชาชนของพระองค์ ได้มีส่วนมีเสียงตามความเห็นดีเห็นชอบในการจรรโลงประเทศสยามให้วัฒนาการในภายภาคหน้าส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาคือ หมวด 2 สิทธิและหน้าที่ของชนชาวสยาม มาตรา 14 ภายในบังคับแห่ง กฎหมายบุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ภายในร่างกายเคหสถาน ทรัพย์สิน การพูด การเขียน การโฆษณา การศึกษาอบรม การประชุมโดยเปิดเผย การตั้งสมาคม การอาชีพ (ราชกิจจานุเบกษา, 2475, 536)








 2. แนวนโยบายแห่งรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2492 ได้กำหนดอย่างไร อธิบาย
        ตอบ 
หมวด 4 หน้าที่ของชนชาวไทย มาตรา 57 บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ (ราชกิจจานุเบกษา, 2534, 15)
          มาตรา 66 รัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรมและการฝึกอาชีพตามความเหมาะสม และความต้องการของประเทศและพึงส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาทุกระดับ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การจัดระบบการศึกษาอบรมเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะ สถานศึกษาทั้งปวงย่อมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ การศึกษาอบรมภาคบังคับในสถานศึกษาของรัฐ จะต้องจัดให้โดยไม่เก็บค่าเล่าเรียนและโดยทั่วถึงอย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาอบรมขั้นอุดมศึกษา รัฐพึงจัดให้สถานศึกษาดา เนินกิจการได้โดยอิสระภายในขอบเขตตามที่กฎหมายกำหนด รัฐพึงช่วยเหลือผู้ยากไร้และด้อยโอกาสให้ได้รับทุนและปัจจัยในการจัดอบรมเเละการฝึกออาชีพ
 
3.เปรียบเทียบแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2511 พุทธศักราช 2517 และ พุทธศักราช 2521 เหมือนหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ  เหมือนกัน  เพราะรัฐพึงส่งเสริมและบำรุงการศึกษาอบรม  การจัดระบบการศึกษาอบรมและฝึกอบรมตามความเหมาะสมและความต้องการของประเทศ  การจัดการศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะการศึกษาทั้งปวงย่อมอยุ่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ

4.ประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490 ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯพุทธศักราช 25492-2517 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร  อธิบาย

ตอบ ประเด็นที่ 1 ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา หมวด 3 สิทธิและหน้าที่ของชนชาวไทย มาตรา 23 กล่าวว่า บุคคลย่อมมี
เสรีภาพบริบูรณ์ภายในร่างกายเคหสถาน ทรัพย์สิน การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา การศึกษาอบรม การชุมนุมสาธารณะ การตั้งสมาคม การอาชีพ ทั้งนี้ภายใต้บังคับแห่งตัวบทกฎหมาย

        ประเด็นที่ มาตรา 36 บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการศึกษาอบรม เมื่อการศึกษาอบรมนั้นไม่เป็นปฏิปักษ์ ต่อหน้าที่ของพลเมืองตามกฎหมายว่า ด้วยการศึกษาอบรมและไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรสถานศึกษา สถานศึกษาของรัฐและของเทศบาล ต้องให้ความเสมอภาคแก่บุคคล ในการเข้ารับการศึกษาอบรมตามความสามารถของบุคคลนั้นๆ

5.ประเด็นที่ 3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534 ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2540-2550 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ  เหมือนกันเพราะว่าบุคคลทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในด้านการศึกษา  ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย ส่งเสริมให้ประชาชนมีการเรียนรู้ที่ดี ที่สมบูรร์ มีจิตสำนึกและเป็นคนที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม

6. เหตุใดรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะต้องระบุในประเด็นที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาอย่างเป็น
ธรรมและทั่วถึง อธิบาย

ตอบ  เพราะการเปลี่ยนแปลงของประเทศ นับตั้งแต่ได้มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นและมีการปรับปรุงแก้ไขในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่เสรีภาพ การศึกษาอบรม ให้กับเด็กและเยาวชนใหเ้ป็นผู้มีความสมบรูณ์ทั้งร่างกายจิตใจ สติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม โดยมีแนวทาง ในการจัดการศึกษา รัฐจะต้องจัดการศึกษาและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้
คู่คุณธรรมเช่นกัน


7. เหตุใดรัฐจึงต้องกำหนดบุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมาย
บัญญัติจงอธิบาย หากไม่ปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ  บุคคลทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน หากรัฐกำหนดรัฐธรรมนูญขึ้นแน่นอนจะต้องมีผู้ดูแลในที่นี้จะต้องเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นในส่วนของภาครัฐหรือส่วนของเอกชน ถ้าหากไม่ปฎิบัติจะเกิดความไม่เท่าเทียมกัน


8. การจดัการศึกษาที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหาก เราพิจารณารัฐธรรมนูญมีฉบับใดบ้างที่ให้องค์กรส่วนทอ้งถิ่นมีส่วนร่วม และถ้าเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นท่านคิดว่าเป็นอย่างไรจงอธิบาย

ตอบ  การจัดการศึกษาที่ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษานั้น เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษามากเเละสูงสุดเเละประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องคือฉบับที่ 5-10 


9. เหตุใดการจัดการศึกษา รัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชน ส่งเสริมความเสมอภาคท้ังหญิงและชาย พฒั นาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว และความเข็มแข็งของชุมชน สังเคราะห์ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส จงอธิบาย

ตอบ เพราะว่าเยาวชนทุกคนจะต้องมีความเสมอภาคกันมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน มีระเบียบวินัยในการอยู่ร่วมกัน คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว

10.ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีผลต่อการพัฒนาประเทศ อย่างไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ ตั้งแต่มีนโยบายเรียนฟรี สามารถทำให้ผู้ด้อยโอกาสได้รับการศึกษาเท่าเทียมกับผู้อื่น สามารถทำให้เด็กไทยทั่วประเทศสามารถมีความรู้ และยังมีบางส่วนที่รัฐจะมีทุนการศึกษาให้กับเด็กเรียนดี และเด็กยากจนซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากเป็นเหมือนแรงบนดานใจให้กับผู้เรียนสามรถมีกำลังใจและเป็นเด็กไทยที่เก่งในอนาคต 




















 



วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

อนุทิน 3

 


แบบฝึกหัด ที่1
คำสั่ง หลังจนักศึาได้ศึกาบรีล้ตอคำมต่อนี้ให้ถูต้อง
1. ท่านคิดว่าทำมมนุษย์เรต้องมีฎหมาหากไม่มีป็นย่าง
ตอบ    เพราะ มนุษย์ทุกคนต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้อื่นเพราะฉะนั้นในการอยู่ด้วยกันหลายๆคนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา จะต้องมีกฎระเบียบหรือข้อบังคับร่วมกัน หรือมีกฎหมายขึ้นมานั่นเองหากผู้ใดไม่ปฎิบัติตามกฎหมายจะต้องมีโทษกฎหมายจะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาบ้านเมืองถ้าไม่มีกฎหมายบ้านเมืองก็จะวุ่นวาย อยู่ไม่เป็นสุขต่างคนต่างอยู่และไม่เจริญก้าวหน้า
2. ท่านคิดว่าสังคมปัจจุบันจะอยู่ได้หรือไม่หากไม่มีกฎหมายและจะเป็นอย่างไร
ตอบ อยู่ไม่ได้เพราะสังคมในปัจจุบันมีความวุ่นวายมากทั้งทางด้านการเมืองการปกครอง ทางด้านเศรษฐกิจ ถ้าหากว่าไม่มีกฎหมายเข้ามาช่วยดิฉันคิดว่ามันจะวุ่นวายกว่านี้ ทั้งทางด้านการก็ไม่ทันสมัยล้า
หลังอยู่ไม่เป็นระเบียบขาดการพัฒนา เศรษฐกิจก็ย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ ประชาชนต่างคนต่างอยู่ซึ่งในที่สุดก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้
3. ท่านมีความรู้ความข้าใจกี่ยกัฎหมายในปด็นต่อปนี้
ก. ความหมาย
กฎหมายคือ คำสั่รืข้บัคับบุที่มีอำนจสูสุดรัป็ข้บัคัช้
กับทุคนที่ยู่รัฐหรืทศนั้ ต้ฏิบัติมีภาบัคัที่มีกกำ บท
โทษ ฎหมามีหภทายลักษ ขึ้ยู่กับวัตถุงค์ใกาบังคับใช้กา
จัดารศึกษาจำป็นต้งมีกฎหมายป็นบรรทัดฐหรือเรื่องมืนกรบิรหารจัดกาที่ กี่ข้กั
จัค์ริบุริรักรพื่อกศึกษ ตลอ คำสั่รือข้บัคัที่กี่กัจัศึ
ข. ลัณะหรือองค์ประกอบของกฎหาย
ลัณะหรือองค์บมี 4 ประกคือ (ชีวัฒน์ นิตร,2542, 2-3;กล สัพัธ์, 2545,1;พิชิ ดท,2550, 4-5)
1. เป็นคำสั่งหรืข้บังคัที่กิรัธิยที่ค์กรหรือคณบุคคที่มีอำาจสูสุาทิ
รัฐสภาฝ่านิติบัญัติ หัน้าคณฏิวัติ กษัตริย์ในระบบมบูรณสิธิาชย์ ามารถ ช้อำนา
บัญัติฎหมายได้ ช่น รัภา าชบัญัติ คณะรัรี ตรระาชกำหนดาช
กฤษฎี คณฏิวัติ คำสั่ รืะกาศฏิวัติชุดต่าง ถืว่ป็ฎหมาย
2. มีลักษป็นคำสั่งข้บัคับ นุมัติช้คำวิง ะก รืถลณ์ าทิ าศ ของกระทวงศึกธิร คำแถลรณ์ของคณะสงฆ์ ห้ถือเป็นนวปฏิบัติมีช้มาย สำาหรับ คำสั่งข้บังคับที่ป็นฎหม ช่น าชบัญัติศึกษาแห่งชาติ.ศ. 2542 พระราชบัญัติ ศึกาภาคบังคับ.ศ. 2545 าชกำดบริฉุฉิน .ศ. 2548 ป็ต้น
3. ช้บังคับกับคนทุคนรัย่างมอภาค เพื่ให้ทุกคนเกรงกลัวและถืฏิบัติสังคมะสงบสุขได้ช่น ฎหมาที่กี่ยกับภาษีงินด้ ช้บังคับกับผู้ที่มีงินด้ ต่ม่บังคัด็ที่ยัม่มี งินด้
จ้กิดภา 15 วั จ้งคตายภาใน 24 ชั่วมง ยื่นแดงพื่อลงบัชีทหาร มื่
ยุย่างข้า 18 ปี ข้รัคัดลืป็นทหจำรเมื่ออยุย่างข้า 21 ปี ป็ต้
4. มีภาพบังคับ ซึ่งบุคคจะต้องปฏิบัติตามกฎหยเฉกระทำารงว้ ทาามฎหมานั้น กำหนด หาฝ่าฝืนม่ปฏิบัติตามฝ่าฝืถูกลรือม่ก็ได้ และสภาพบังคับนทางอาคือที่บุคคผ้ที่ทำผิต้อด้รัทษ ช่น รอา ปรัาคุก กักขัง ริมทย์ แต่หาป็นคดีแง ผู้ฝ่ฝืนม่ฏิบัติตามฎหมาต้อช้ค่าสิหม่ ทดแทน หรือค่สียหารือชำหนี้ด้วยกสั่งมบทรัพย์สห้ทำหรือว้ทำอย่าง างหนึ่งตามมูนี้ที่มีต่กัหว่าเจ้าหนี้และลูกหนี้ ช่น บังคับช้หนี้งินร้อบี้ย บังคับห้ผู้ขายส่งมบหรืนทรัพย์สิห้แก่ผู้ซื้อตามสัญญซื้ขาป็นต้
ค.ที่มาของกหมาย
ตอบ ที่มฎหมาย มีตำราบาแห่งช้ว่าบ่อเกิดขฎหม รืออล่าวด้ว่ป็รูแบบ ที่ฎหมาดงออมา สำรับทที่มาขหมายใต่ละทศมีที่มาต่อกัส่วนขงประเทศไทย พอที่จะรุปได้ 5 ลักษดังนี้ (รราชา จริพานิ, 2525; คมชัย รรแลคณ,2545; กล สัพั, 2545;หยด แสงอุทั,2552)
1. บทบัญัติห่งฎหมาย ป็นฎหมายลักษณะอักษช่น ฎหมามวรั รัฐธรนู
าชบัญญัติ าชกำนด กฤษฎีวง ทศบัญัติ ซึ่ ฎหมาดังกล่าว
ผู้มีอำนาแห่งรัรืผู้ปรอป็นผู้ออกกฎหมาย
2. จารีะเพณี ป็นแบย่างที่ปชาชนนิมปฏิบัติามกันมานาน หานำบัญัติป็นฎหมายลยลักษณ์อักษล้ย่มีภาพไป็นหมาย ช่น มวป็กีฬา หาชน ามติา หาคู่ชบาดเจ็าหัรือถึงแชีวิต ย่ม่ผิดานทำร้ร่างรือานฆ่าคาย อีณีนึ่งแพทย์รัาคนข้ ผ่าตัดขแขน ความยิมขข้ ย่ถือว่ม่มีความผิด เพป็จารีตปะเณีที่ปฏิบัติต่อกันมา ปฏิบัติามติรืฑ์รืาบณที่ กำหนดม่ถืว่าเป็นควาผิดทางฎหมาย
3. ป็ข้ห้แลข้ฏิบัติที่ดีทุก สนสอห้ป็ดี ช่ ห้ลัรัพย์ ห้ามผิดลูกเมีย ห้ามทำร้ผู้อื่ กฎหมยจึงได้บัญัติตามหลักแลมีกงโทษ
4. คำพิของศารือลักรรทัดนขงคำพิพซึ่งคำพิพกษาขงศาชั้สั่ป็นแทางที่ศาชั้นต้ต้อนำถืฏิบัติตัสิคดีหลัง ๆ ซึ่งแนวทางป็นตุแห่ง ความคิดข
ว่าทำจึตัสินคดีช่นนั้นำสู่กก้ไฎหมายในแวความคดีนี้ด้ จะต้อตามหลักควริงมาที่สุ
5. ความเห็นขนันิติศาตร์ ป็นดงความคิห็นขงว่ามคที่ะอกกฎหมาย ย่างนั้น มควรืม่ จึงทำห้นันิติศาร์ าจจะป็นาจย์ผู้มีชื่เสียในฎหมาได้แสดง ความคิดห็นว่าฎหมาฉบันั้นด้ ด็นที่น่าจเพื่ที่ก้ไฎหมายให้กิดปชน สูสุกับปชาชนดังกล่าว ช่น ฎหมายลักษะกาศช้หม่ บัญัติว่า ถืออาวุธ นนหวงม่มีความผิดถ้ม่มีะสุต่มาบิดาฎหมายได้ทขีธิบาตุว่า ถืออาวุในนหลวงมีข้ห้ามรืป็นความผิจึด้แก้ไฎหมาย ดังกล่าว
ง. ประเภทขฎหมาย
ตอบ ด้มีนัวิชาบ่หมว้าย ขั้นอยู่กัลักฑ์ใบ่ง งแต่
ละท่าน แบ่งปหมาที่นำไปใช้นั้นมีรูบบลักษะที่แตต่างกั เร
พิารณาแบ่งปเภทขงกฎมายออป็ลุ่มย่ บ่งได้หายลักษะขึ้ยู่กับว่าใช้ ะไ
ป็นหลักใแบ่ง ด้แก่
แบ่งแหล่กำเนิด แบ่งออกได้ป็นฎหมาภายในแลหมาภา ฎหมาภายใ
ป็นหลักใแบ่งย่ออกได้อี ช่น
แบ่งโดยถือเนื้อหาเป็นหลัก ป็ลักณ์อักษะกที่ม่ด้ป็ายลัณ์อั   แบ่งยถืภาบังคับฎหมาป็นหลั ป็นฎหมา ละกฎหมาพ่ แบ่งยถืลักษป็นหลักแบ่งด้ป็นฎหมายสบัญญัติ ละกฎหมาวิธีสบัญญัติ แบ่งโด ยยึดถื นะ    สัม พันธ์ ระ หว่ างรั กั บป นเ ป็นเ ฑ์ แบ่      ด้ ป็         หมามหาชน ฎหมาเอก      ฎหมาภา ป็นฎหมาหว่างปทศ ฎหมาหว่างปทศแบ่งามลักษะขะคามสัมพัธ์ ช่บ่งป็กฎมา   ภทดีเมื ส่ที่ว่าด้วความสัมพัธ์หว่รัต่อรั กฎหว่ ดีบุส่ที่ว่ด้สัพัธ์ว่บุคครันึ่กับุคคอีรันึ่ กฎว่างดีป็ที่ว่ด้ยข้ว่รัการ่มือ อย่างถอยที่ถอยปฏิบัติในการปราบปรามอาชญาระหว่างประเทศและส่งตัวผู้ร้ายข้ามให้แก่กัน (มคิด บางโม, 2548, 16-17 ;ภูมิชัย สุวรรณัแลคณ, 2543, 27-31 ; สกสัมพัธกล, 2546,
4-5 ; มานิตย ์จัมป,2542, 119 ; รีราชา จริญพานิ, 2548,118-119)
ซึ่งบ่งปเภทกฎมายที่ใช้ใทศไท ขึ้ยู่ใช้ลักใดจะข้ล่ยทั่ปดังนี้
.ฎหมาภายใ มีดังนี้
1. ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักษละไม่ป็นยลักษณ์อักษ
1.1 ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักษ แบ่งยยึนื้หาขฎหมาที่ปกฏป็นหลัผ่ะบบัญัติช่ รัธรนูชบัญัติ กฎายต่ พราชกำระราชฎีที่ด้รับเห็กรัรื ค์กา ริหาส่วนท้ถิ่ าศัอำนาจจกพาชบัญญัติ  ช่น ทศบัญญัติ
1.2 ยที่ป็ม่ป็นลลัณ์อั ป็ายที่มีได้มีกาบัญัติผ่ กระวนนิติบัญญัติ ช่น รีตณี หลักกฎหมาทั่ว
2. ฎหมาที่มีภาบังคับทาง ละกฎหมาที่มีภาบังคับทางแพ่
2.1 กฎยที่มีภาพบัคับท ะมกฎ 18 บัญัติโาง ช่ ชีวิจำคุกัขั รั รืริรัย์สิ ภาบัคับทจึป็นโย่างดอย่างนึ่รือย่ช้ษกัผู้ทำาง
2.2 กฎยที่มีาพบังคับทางพ่ด้บัญญัติถึาพบัคับลักษต่ง ๆ กัว้ สำรัผู้ฝ่าฝืนหรืม่ระทำามที่มาบัญัติว้ ช่ กำห้ป็ะกรรรือโยกรรกาบังคัห้ชำนี้ กาห้ใช้ค่าสียรือที่กฎย บังคับห้ทำย่างย่างหนึ่งพื่ความป็นรรม   นึ่สำรับังคับททางางพ่งบคู่กัปก็ได้ ช่ กฎมายที่ดิ พระราชบัญัติลิสิทธ าชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ละพาชบัญญัติกาล้อีกทั้ ยังมีภาพบังคับทารออี ตามะราชบัญัติวฏิบัติราชารทางปรอ.ศ. 2539
3. หมายสารบัญญัติ แลหมาวิธีสบัญัติ
3.1 กฎมายบัญญัติ บ่งยคำนึถึงบทบาทขงกฎมายป็นหลั ล่ถึงกาทาที่ฎหมายกำหนดป็นงค์ปะกบแห่งคามผิ รือป็สิธิ หน้าที่ะคามรัผิดบ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กฎหมายประสงค์จะควบคุมหรือคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจก่อให้เกิดผ มีบังคัที่รัรืผู้มีอำนาบัคับให้ป็ไปมกป็นผู้กำหนรกรทำผิ ตุณ์ที่เกิดขขากษระวาผิดมบกฎ กฎที่ กำหนดงค์ปะกบคามผิ กำหนดามร้ายแห่ทษจึป็กฎมายบัญัติช่นตัวบทกฎหมายในประมวลกฎหมายอาญาและในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกือบทุกมาตรา เป็นกฎหมารบัญญัติ
3.2 หมวิธีบัญัติ ล่าวถึ วิธีกรแลขั้ตอช้หมบัคัช่
มวลกฎหมาวิธีพิณาความ ซึ่นปกฎมายนี้กำหนดตั้แต่อำจหน้าที่ข เจ้นัานขรัดำนินคดี รร้องทุข์ กาล่ทษว่มีกาทำผิดกิดขึ้น กาวนดีเจ้าพนักงากาฟ้ร้องคดีต่ศา กาพิาคดี ะกาพิา คดีนศาล ก่ผู้ทำผิด สำรับคดีแพ่ กฎมายวิธีกาพิาคามพ่งะกำหน ขั้นตอต่าง ไว้ เป็นวิธีรดำนินคดีเริ่ตั้แต่ฟ้งคดีเรื่อยไปจนถึงศาพิาคดีละบังคับให้ ป็นไปคำพิากยังมีฎหมาบางฉบับมีทั้งที่ป็บัญญัติและวิธีสบัญัติทำห้ที่บ่งว่าป็ ประ ช่ พระรบัญญัติล้ มีทั้ลัฑ์ค์วิธีดำเนิดี ล้มละลยู่ด้ ที่ป็ไปกฎยปทให้ดูว่นั้นหนักไปทางกกว่กั
4. หมามหาชน ฎหมา
4.1ยม ป็มาที่กำามสัพัธิ์รว่รักับปาช รั
ป็นผุ้อำนาบังคับให้ะชาชฏิบัติตามกฎ พื่ห้เกิามงบรียบร้อก่สังค ป็ รื่องมืกาบคุมสังค คื กฎมายมด้แก่ กฎมายรัรรนูกำหนดบีแบแผช้อำธิย กำหนดสิธิแลน้าที่งปาช กฎหมาปกกำหนดแบ่งส่วนาชรเพื่ริหาทศ ละกริด้านต่าง ๆ แก่ชาชน พื่อคุ้มคงคามสัรัฐต้อผู้ฝ่ฝืนแกระทำผิ หรัวิธีและขั้นตอนที่าคมาทษทางบัญญัติว้ในกฎวิธีกพิจาณาควา บัญญัติอัป็นฎหมาที่ควบคุมและคุ้มครอสังคมห้กิดความงบสุขและป็นรร
4.2 ฎหมาเอป็กฎยที่มีความสัมพัธ์หว่าเอกชนด้ยกั ช่กฎายพ่งแลณิย์ าชบัญญัติบาฉบั ช่ชบัญัติริษั จำกัดเปิดโอกาสให้ประชาชนสร้างความสัมพันธ์เชิงกฎหมายระหว่างกันในรูปของการทานตกรรม สัญญ มีผต่อคู่ณีห้มีฎหมคุ้มครอทั้ 2 ฝ่ายมีผูกพั ยกาทำสัญญฏิบัติต ฎหมาบทุะการ ถ้าฝ่ายใดฝ่าหนึ่งปปฏิบัติตามหน้าที่ย่ถูกฟ้งบังคับห้ปฏิบัติตามด้
ข. ฎหมาภา มีดังนี้
1. ฎหมาหว่างปทศแผนคดีมื ป็นมายที่ว่ด้วยคามสัมพัธ์หว่างรั ต่อรัฐในที่ต้องปฏิบัติต่กันแะกั นฐะที่รัฐเป็นนิติบุคคกฎมายหว่างป ซึ่งมีเกฑ์กำกล่วคื1) ระชานร่กัอยู่ป็กลุ่ก่ ปึผ่ รียกว่มื2)ต้องมีดินแดนหรืออาณาที่แน่นน3) มีปกรอป็นบียบบบแผน4) ป็นเอช 5) มีธิช่บัรสาชาติ ธิสัญญข้ค้ากฎหมยที่ป็นจรีณีที่ยึถืฏิบัติกั รัทุกรัฐต่เห็น ช่ ลักาต่ตั้อัาชทูต เสิธ์ในทาทูต
2. กฎมายหว่างปทศแผนกคดีบุคคป็ข้บังคับทว่ด้วยความสัมพัธ์หว่บุ คค ลใ นรั ฐต่างรั ฐ เ ช่ นพ ะร าชบั ญญั ติว่าด้ วยการขัดแ ย้ง แห่งก ฎห มา ยเ ป็ นการบังคับความสัพัธ์งบุคคที่ยู่ในปทศยกับบุคคที่ยู่ใรัฐอื่
3. ฎหมาหว่างปทศแผนคดี ป็ข้อบังคับที่ประเทศหนึ่งหรือรัฐหนึ่งกลงยอมรับให้ศาลส่วนอาญาของอีกรัฐหนึ่งมีอำนาจในการพิจาณาลงโทษอาญาแก่บุคคลที่ได้กระทำผิดนทศ
นั้นด้ ช่น ธิสัญญส่งผู้ร้ข้ามแดน
4. ท่านมีความคิดห็นย่าง ว่า ทำมทุทศจำเป็นต้องมีฎหมาย จงธิบาย
ตอบ เพราะว่าทุกประเทศจะต้องมีการเมืองการปกครอง ต้องมีการพัฒนาประเทศและ จะต้องอาศัยอยู่
ด้วยกันเป็นจำนวนมากดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะจะทำให้ประเทศมีระเบียบไม่วุ่นวาย
ที่สำคัญคือต้องพัฒนาประเทศอยู่ตลอดเวลาเพราะกฎหมายเปรียบเสมือนหัวใจหลักของการพัฒนา
5. ภาบังคับนทางฎหมาท่านมีความข้าจอย่าง จงธิบาย
ตอบ สภาพบังคับในทางกฎหมายคือเป็นกฎหมายข้อบังคับที่จะต้องปฏิบัติตาม เป็นการจัดลำดับแห่งคำบังคับของกฎหมายหรืออาจ ล่ด้ว่ศัยอำค์กรที่ใช้อำค์กรที่ต่กัน ในรจัลำดับมีรจัย่าง ซึ่ต้อาศัลักว่า กฎมายรื บทบัญญัติด้ขฎหมาที่ยู่ในลำดับที่ต่ำวา ขัดหรือย้กัฎหมายใลำดับทสูงกว่าไม่ได้
6. สภาบังคับฎหมายใาและทางแพ่ มีความหมืนหรือต่างกัย่าง
ตอบ แตกต่างกัน เพราะ
- กฎหมายอาญา ผู้ที่กระทำความผิดจะต้องรับโทษ เช่น รอลงอาญา ปรับ จำคุก กีกขัง ริมทรัพย์ บังคับทางอาญาจะเป็นการทำโทษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างต่อบุคคลที่กระทำความผิดทางอาญาแต่กฎหมายทางแพ่งได้บังคับลักษณะต่างๆกันไว้สำหรับลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย เช่น การกำหนดให้ชำระหนี้ การให้ชดใช้ค่าเสียหาย หรือการที่กำหมายบังคับให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อความเป็นธรรม
7. ระบบฎหมาป็นย่าง ธิบาย
ตอบบบขฎหมาย แบ่งป็น 2 บบดังนี้ (นิ สุริ, 2525, 51-57; คิ บางโม, 2546, 15-16)
1. ะบบลล (Civil Law System) รือระบบลยลักษอักษถืกำเนิดขึ้วี ยุโรปรา
ริศตวรที่ 12 ป็นะบบเอาจา Jus Civile” ช้แยกควา Jus Gentium โร
ซึ่ลักษะพิล่คืป็ายลัณ์อัที่มีสำคัว่ย่อัคำพิพา
ษาม่ใช้ที่มกฎมา ต่ป็ทัย่งขงกตีกฎ ท่านั้ริ่
ต้นากตับทกมาป็สำคั ะถือเอคำพิพกษารืมคดีห็นนักกฎมาย
ป็นหลักไม่ได้ ยังถืว่ กฎมายกชนแะกฎมายมาชนเป็ส่วนกั วินิฉัคดี
ผู้พิพกษป็นผู้ตัสินชี้ขาด กลุ่มปทศที่ช้ฎหมานี้ปรทศยุโรช่ อิลี อรมัน รั่ศส วิตเอร์นด์ ละทศวันออ ช่น ทย ญี่ปุ่น
2. บคอมมอว์ (Common Law System) กิดและวิวันาขึ้นนปทศอังก มีหง้า
จากศักดิ์น ซึ่ต้งกล่ถึงคำว่ คคิตี้ (equity) ป็นะบวนรเข้าไปริ ต่ห้คมม
ว์เป็นพันามากกฎหมาที่ม่ป็นลักษณ์อักษ นำเรีณีละคำพิ
ซึ่ป็นบรรทังศาลสมัย ก่ามาใช้ จนะทั่งป็ะบบกฎมายที่มีคมบูณ์ตัเอ
กาวินิจฉัยต้าศัยคลูกขุนเป็นผู้ตัดสิชี้ขา ทศที่ใช้ะบบกฎมายนี้ ช่น อักฤ
รัเมริกา ะเทศรือจักรภอักฤ
8. ยมลักกบ่ย่ไรบ้มีกี่ป ต่ละทประกด้
อะไรบ้าง ยกตัย่างอธิบาย
ตอบ ด้มีนัวิชาบ่หมว้ ขึ้นอยู่กัลักฑ์ใบ่ งแต่ละท่าน แบ่งปหมาที่นำไปใช้นั้นมีรูบบลักษะที่แตต่างกั เระพิารณาแบ่งปเภทขงกฎมายออป็ลุ่มย บ่งได้หายลักษะขึ้ยู่กับว่าใช้ ะไรเป็นหลักใแบ่ง ด้แก่แบ่งแหล่กำนิด แบ่งออกได้ป็นฎหมาภายในแลหมาภา ฎหมาภายใป็นหลักใแบ่งย่ออกได้อี ช่น
- แบ่งโดยยึดถือเนื้อหาเป็นหลัก ป็ลักณ์อักษะกที่ม่ด้ป็ายลัณ์อั
- แบ่งยถืภาบังคับฎหมาป็นหลั ป็นฎหมา ละกฎหมาพ่ แบ่งยถืลักษป็นหลั แบ่งด้ป็น ฎหมายสบัญญัติ ละกฎหมาวิธีสบัญญัติ แบ่งโด ยถื นะ สัม พันธ์ ระ หว่ างรั กั บป นเ ป็นเ ฑ์ แบ่ด้ ป็
หมามหาชน ฎหมาเอก
ฎหมาภา ป็นฎหมาหว่างปทศ ฎหมาหวางปทศแบ่งามลักษะขะคามสัมพัธ์ ช่บ่งป็กฎมา
ภทดีเมื ส่ที่ว่าด้วความสัมพัธ์หว่รัต่อรั กฎหว่ ดีบุส่ที่ว่ด้สัพัธ์ว่บุคครันึ่กับุคคอีรันึ่ กฎว่างดีป็ที่ว่ด้ยข้ว่รัการ่มือ อย่างถอยที่ถอยปฏิบัติในการปราบปรามอาชญาระหว่างประเทศและส่งตัวผู้ร้ายข้ามให้แก่กัน (มคด บางโม, 2548, 16-17 ;ภูมชย สวรรแลคณ, 2543, 27-31 ; สกุสัมพธกล, 2546,4-5 ; มานิตย์มป,2542, 119 ; รราชา จริญพานิช, 2548,118-119) ซึ่งบ่งปเภทกฎมายที่ใช้ใทศไท ขึ้ยู่ใช้ลักใดจะข้ล่ยทั่ปดังนี้
.ฎหมาภายใ มีดังนี้
1. ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักละไม่ป็นยลักษณ์อักษ
1.1 ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักษ แบ่งยยึนื้หาขฎหมาที่ปกฏป็นหลั   ผ่ะบบัญัติช่ รัธรนูชบัญัติ กฎายต่ พราชกำระราชฎีที่ด้รับเห็กรัรืค์กา ริหาส่วนท้ถิ่ าศอำนาจจกพาชบัญญัติ ช่น ทศบัญญัติ
1.2 ยที่ป็ม่ป็นลลัณ์อั ป็ายที่ไม่ด้มีกาบัญัติผ่นกระวนนิติบัญญัติ ช่น รีตณี หลักกฎหมาทั่ว
2. ฎหมาที่มีภาบังคับทาง ละกฎหมาที่มีภาบังคับทางแพ่
2.1 กฎยที่มีภาพบัคับท ะมกฎ 18 บัญัติโาง ช่ ชีวิจำคุกัขั รั รืริรัย์สิ ภา
บัคับทจึป็นโย่างดอย่างนึ่รือย่ช้ษกัผู้ทำผิาง
2.2 กฎยทมาพบังคับทางพ่ด้บัญญัติถึาพบัคับลักษต่ง ๆ กัว้ สำรัผู้ที่ฝ่าฝืนหรืม่ระทำามที่มาบัญัติว้  ช่ กำห้ป็ะกรรรือโยกรรกาบังคัห้ชำนี้ กาห้ใช้คำสีย หรือที่กฎยบังคับห้ทำย่างย่างหนึ่งพื่ความป็นรร
นึ่สำรับังคับทั้ทางางพ่งบคู่กัปก็ได้ ช่ กฎมายที่ดิ พระราชบัญัติลิสิทธ์ าชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ละพาชบัญญัติกาล้อีกทั่ ยังมีภาพบังคับทารออี ตามะราชบัญัติวิธีฏิบัติราชารทางปรอ.ศ. 2539
3. หมายสารบัญญัติ แลหมาวิธีสบัญัติ
3.1 กฎมายบัญญัติ บ่งยคำนึถึงบทบาทขงกฎมายป็นหลั ล่ถึงกาทำฎหมายกำหนดป็นงค์ปะกบแห่งคามผิ รือป็สิธิ หน้าที่ะคามรัผิดบ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กฎหมายประสงค์จะควบคุมหรือคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจก่อให้เกิดผ มีบังคัที่รัรืผู้มีอำนาบัคับให้ป็ไปมกป็นผู้กำหนรกรทำผิ ณ์ที่เกิดขึ้ข้าลักษค์ระวาผิดมบกฎ กฎที่กำหนดงค์ปะกบคามผิ ะกำหนดามร้ายแห่ทษจึป็กฎมายบัญัติช่นตัวบทกฎหมายในประมวลกฎหมายอาญาและในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกือบทุกมาตรา เป็นกฎหมารบัญญัติ
3.2 หมวิธีบัญัติ ล่าวถึ วิธีกรแลขั้ตอช้หมบัคัช่
มวลกฎหมาวิธีพิณาความ ซึนปกฎมายนี้กำหนดตั้แต่อำจหน้าที่ข เจ้นัานขรัดำนินคดี รร้องทุข์ กาล่ทษว่มีกาทำผิดกิดขึ้น กาวนดีเจ้าพนักงากาฟ้ร้องคดีต่ศา กาพิาคดี ะกาพิาคดีนศาล ก่ผู้ทำผิด สำรับคดีแพ่ กฎมายวิธีกาพิาคามพ่งะกำหน ขั้นตอต่าง ไว้ เป็นวิธีรดำนินคดีเริ่ตั้แต่ฟ้งคดีเรื่อยไปจนถึงศาพิาคดีละบังคับให้ ป็นไปคำพิษายังมีฎหมาบางฉบับมีทั้งที่ป็บัญญัติและวิธีสบัญัติทำห้ที่บ่งว่าป็ ประ ช่ พระรบัญญัติล้ มีทั้ลัฑ์ค์วีธีดำเนิดี ล้มละลร่ยู่ด้ ที่ป็ไปกฎยปทให้ดูว่นั้นหนักไปทางกกว่กั
4. หมามหาชน ฎหมา
4.1ยม ป็มาที่กำามสัพัธ์รว่รักับปาชน รั
ป็นผู้มีอำบังคับให้ะชาชฏิบัติตามกฎาย พื่ห้เกิามงบรียบร้อก่สังคม ป็ รื่องมืกาบคุมสังคม คือ กฎมายมชน ได้แก่ กฎมายรัรรนูญ กำหนดบีแบแผช้อำธิย กำหนดสิธิแลน้าที่งปาช กฎหมาปกกำหนดแบ่งส่วนาชรเพื่ริหาทศ ละกริด้านต่าง ๆ แก่ชาชน พื่อคุ้มคงคามรัฐต้อผู้ฝ่ฝืนแกระทำผิ สำหรัวิธี ละขั้นตอนที่าคมาทษทางา บัญญัติว้ในกฎวิธีกพิจาณาควา ละบัญญัติอื่ ป็นฎหมาที่ควบคุมและคุ้มครอสังคมห้กิดความงบสุขและป็นรร
4.2 ฎหมาเอป็กฎยที่มีความสัมพัธ์หว่าเอกชนด้ยกั ช่
กฎายพ่งแลณิย์ าชบัญญัติบาฉบับ ช่ชบัญัติริษัชน จำกัดเปิดโอกาสให้ประชาชนสร้างความสัมพันธ์เชิงกฎหมายระหว่างกันในรูปของการทำนัตกรรม สัญญ มีผต่อคู่ณีหม่ฎหมคุ้มครอทั้งง 2 ฝ่ายมีผูกพันโยกาทำสัญญฏิบัติตฎหมาบทุะการ ถ้าฝ่ายใดฝ่าหนึ่งปปฏิบัติตามหน้าที่ย่ถูกฟงบังคับห้ปฏิบัติตามด้
ข. ฎหมาภา มีดังนี้
1. ฎหมาหว่างปทศแผนคดีมื ป็นมายที่ว่ด้วยคามสัมพัธ์ระหว่างรัต่อรฐ
ที่ต้องปฏิบัติต่กันแะกันฐะที่รัฐเป็นนิติบุคคกฎมายหว่างป ซึ่งมีเกฑ์กำกล่วคื
1) ระชานร่กัอยู่ป็กลุ่ก้ ปึผ่ รียกว่ มื
2) ต้องมีดินแดนหรืออาณาที่แน่น
3) มีปกรอป็นบียบบบแผ
4) ป็นเอ
5) มี ธิ ช่ บัรสาชาติ ธิสัญญข้ค้ากฎหมยที่ป็นจรีณีที่ยึถืฏิบัติกั รัทุกรัฐต่เห็น ช่ ลักาต่ตั้อัาชทูต เสิธิในทาทูต
2. กฎมายหว่างปทศแผนกคดีบุคคล ป็ข้บังคับที่ว่ด้วยความสัมพัธ์หว่าง
บุคคลในรัฐต่างรั ฐ เ ช่ นพ ะราชบั ญญั ติว่ าด้วยการขั แย้ งแ ห่ง กฎหมายเป็นการบังคับความสัพัธ์งบุคคที่ยู่ในปทศยกับบุคคที่ยู่ใรัฐอื่
3. ฎหมาหว่างปทศแผนคดี ป็ข้อบังคับที่ประเทศหนึ่งหรือรัฐหนึ่งกลงยอมรับให้
ศาลส่วนอาญาของอีกรัฐหนึ่งมีอำนาจในการพิจาณาลงโทษอาญาแก่บุคคลที่ได้กระทำผิดนทศ
นั้นด้ ช่น ธิสัญญส่งผู้ร้ข้ามแดน
9. ท่านข้าถึงคำว่าศัดิ์ขฎหมาคืออะไ มีแบ่งย่าง
ตอบ เป็นการจัดลำดับแห่งคำบังคับของกฎหมายหรืออาจ ล่ด้ว่ศัอำกรที่ใช้อำค์รที่ต่กัซึ่ต้อาศัลักว่า กฎมายรื บทบัญญัติดขฎหมาที่ยู่ใาดับทต่ำว่า ขัดหรือย้กัฎหมายใลำดับที่สูงกว่าไม่ได้ ะพิย่างไ พิากค์กที่มีอำกาออกกมาเหตุ ที่ว่า (1) กรออฎหมาดยฝ่านิติบัญัติ ควรจป็นฎหมาพาะที่สำคั ป็กากำหนหัลกกละยบท่นั้ ชบัญญัติที่รัซึ่ป็ตันขวง (2) กาห้รั ป็กาทันเ ะทนต่ามต้งกาะคามจำเป็สังค (3) ฝ่ ริหารือองค์กรอื่นจออกกฎมายแต้ยู่รองหลักกานำนยบยใกฎย หลักฉบับนี้
10. ตุณ์มื่วันที่ 24 พฤศจ 2555 มีตุณ์ชุนุะช านะบ
รูปทงม้า และชาชนด้ปะกาศว่ามีชุมย่างงบ ต่กฏว่ารัฐบาะกาศป็ขตพื้นที่ห้ามชุมนุม ละขัดขางม่ห้ระชนชุมนุย่ มืทำร้ยร่ ประชา
ในานท่านเรีนวิชานี้ท่านธิบาตุว่า รัฐบาลกทำผิดหรือถู
ตอบ ดิฉันคิดว่าผิด เพราะในเมื่อประชาชนประกาศแล้วว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่สงบ รัฐบาลจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นได้เรียกร้องความยุติธรรม รัฐบาลเพียงคอยตรวจค่อยดูเรื่องความเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นได้ก็เพียงพอ
11. ท่านมีความรู้ความข้าจเกี่ยกั คำว่า ฎหมายกศึกษย่าง ธิบาย
ตอบ กฎหมายการศึกษา ป็นบบัญญัติามรัรรนูด้กำหนห้มี กาศึกขั้ที่ชื่มโยกับรันูว่ด้กาศึกคื ป็รืคำสั่รือ ข้บังคับขรัฐเกี่ยวข้งกับการศึกษารัฐที่กี่ยวข้งกับกาศึกษาที่สถาบันหรือหน่วยงานผู้มีอำด้ตาขึ้บังคับใช้ ถืว่ากฎยทางรศึกษาฉบับคื ชบัญญัติศึกษาแห่ติ
12. านที่นัศึกษต้อเรีนวิชานี้ ถ้เรม่ศึกษฎหมายกศึกษาท่านคิดว่ามื่ท่าน ะกาชีครู มีผลกทบต่อทานย่างบ้าง
ตอบ กฎหมายการศึกษานั้นเป็นสิ่งจำเป็นกับครูมาก เช่นกฎหมายเกี่ยวกับการตีเด็กกฎหมายว่าอย่างไรถ้าเราไม่รู้ไม่เรียนกฎหมายมาก่อนเราก็จะทำไม่ถูก เพราะเราเป็นครูในอนาคตเพราะฉะนั้นเราจะต้องใช้กฎหมาย ถ้าไม่รู้กฎหมายก็จะทำให้เราเกิดผลกระทบในหลายๆด้านเช่นผลกระทบด้านการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กในอนาคต