วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

อนุทิน 3

 


แบบฝึกหัด ที่1
คำสั่ง หลังจนักศึาได้ศึกาบรีล้ตอคำมต่อนี้ให้ถูต้อง
1. ท่านคิดว่าทำมมนุษย์เรต้องมีฎหมาหากไม่มีป็นย่าง
ตอบ    เพราะ มนุษย์ทุกคนต้องอาศัยอยู่ร่วมกับผู้อื่นเพราะฉะนั้นในการอยู่ด้วยกันหลายๆคนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา จะต้องมีกฎระเบียบหรือข้อบังคับร่วมกัน หรือมีกฎหมายขึ้นมานั่นเองหากผู้ใดไม่ปฎิบัติตามกฎหมายจะต้องมีโทษกฎหมายจะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาบ้านเมืองถ้าไม่มีกฎหมายบ้านเมืองก็จะวุ่นวาย อยู่ไม่เป็นสุขต่างคนต่างอยู่และไม่เจริญก้าวหน้า
2. ท่านคิดว่าสังคมปัจจุบันจะอยู่ได้หรือไม่หากไม่มีกฎหมายและจะเป็นอย่างไร
ตอบ อยู่ไม่ได้เพราะสังคมในปัจจุบันมีความวุ่นวายมากทั้งทางด้านการเมืองการปกครอง ทางด้านเศรษฐกิจ ถ้าหากว่าไม่มีกฎหมายเข้ามาช่วยดิฉันคิดว่ามันจะวุ่นวายกว่านี้ ทั้งทางด้านการก็ไม่ทันสมัยล้า
หลังอยู่ไม่เป็นระเบียบขาดการพัฒนา เศรษฐกิจก็ย่ำแย่กว่าที่เป็นอยู่ ประชาชนต่างคนต่างอยู่ซึ่งในที่สุดก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้
3. ท่านมีความรู้ความข้าใจกี่ยกัฎหมายในปด็นต่อปนี้
ก. ความหมาย
กฎหมายคือ คำสั่รืข้บัคับบุที่มีอำนจสูสุดรัป็ข้บัคัช้
กับทุคนที่ยู่รัฐหรืทศนั้ ต้ฏิบัติมีภาบัคัที่มีกกำ บท
โทษ ฎหมามีหภทายลักษ ขึ้ยู่กับวัตถุงค์ใกาบังคับใช้กา
จัดารศึกษาจำป็นต้งมีกฎหมายป็นบรรทัดฐหรือเรื่องมืนกรบิรหารจัดกาที่ กี่ข้กั
จัค์ริบุริรักรพื่อกศึกษ ตลอ คำสั่รือข้บัคัที่กี่กัจัศึ
ข. ลัณะหรือองค์ประกอบของกฎหาย
ลัณะหรือองค์บมี 4 ประกคือ (ชีวัฒน์ นิตร,2542, 2-3;กล สัพัธ์, 2545,1;พิชิ ดท,2550, 4-5)
1. เป็นคำสั่งหรืข้บังคัที่กิรัธิยที่ค์กรหรือคณบุคคที่มีอำาจสูสุาทิ
รัฐสภาฝ่านิติบัญัติ หัน้าคณฏิวัติ กษัตริย์ในระบบมบูรณสิธิาชย์ ามารถ ช้อำนา
บัญัติฎหมายได้ ช่น รัภา าชบัญัติ คณะรัรี ตรระาชกำหนดาช
กฤษฎี คณฏิวัติ คำสั่ รืะกาศฏิวัติชุดต่าง ถืว่ป็ฎหมาย
2. มีลักษป็นคำสั่งข้บัคับ นุมัติช้คำวิง ะก รืถลณ์ าทิ าศ ของกระทวงศึกธิร คำแถลรณ์ของคณะสงฆ์ ห้ถือเป็นนวปฏิบัติมีช้มาย สำาหรับ คำสั่งข้บังคับที่ป็นฎหม ช่น าชบัญัติศึกษาแห่งชาติ.ศ. 2542 พระราชบัญัติ ศึกาภาคบังคับ.ศ. 2545 าชกำดบริฉุฉิน .ศ. 2548 ป็ต้น
3. ช้บังคับกับคนทุคนรัย่างมอภาค เพื่ให้ทุกคนเกรงกลัวและถืฏิบัติสังคมะสงบสุขได้ช่น ฎหมาที่กี่ยกับภาษีงินด้ ช้บังคับกับผู้ที่มีงินด้ ต่ม่บังคัด็ที่ยัม่มี งินด้
จ้กิดภา 15 วั จ้งคตายภาใน 24 ชั่วมง ยื่นแดงพื่อลงบัชีทหาร มื่
ยุย่างข้า 18 ปี ข้รัคัดลืป็นทหจำรเมื่ออยุย่างข้า 21 ปี ป็ต้
4. มีภาพบังคับ ซึ่งบุคคจะต้องปฏิบัติตามกฎหยเฉกระทำารงว้ ทาามฎหมานั้น กำหนด หาฝ่าฝืนม่ปฏิบัติตามฝ่าฝืถูกลรือม่ก็ได้ และสภาพบังคับนทางอาคือที่บุคคผ้ที่ทำผิต้อด้รัทษ ช่น รอา ปรัาคุก กักขัง ริมทย์ แต่หาป็นคดีแง ผู้ฝ่ฝืนม่ฏิบัติตามฎหมาต้อช้ค่าสิหม่ ทดแทน หรือค่สียหารือชำหนี้ด้วยกสั่งมบทรัพย์สห้ทำหรือว้ทำอย่าง างหนึ่งตามมูนี้ที่มีต่กัหว่าเจ้าหนี้และลูกหนี้ ช่น บังคับช้หนี้งินร้อบี้ย บังคับห้ผู้ขายส่งมบหรืนทรัพย์สิห้แก่ผู้ซื้อตามสัญญซื้ขาป็นต้
ค.ที่มาของกหมาย
ตอบ ที่มฎหมาย มีตำราบาแห่งช้ว่าบ่อเกิดขฎหม รืออล่าวด้ว่ป็รูแบบ ที่ฎหมาดงออมา สำรับทที่มาขหมายใต่ละทศมีที่มาต่อกัส่วนขงประเทศไทย พอที่จะรุปได้ 5 ลักษดังนี้ (รราชา จริพานิ, 2525; คมชัย รรแลคณ,2545; กล สัพั, 2545;หยด แสงอุทั,2552)
1. บทบัญัติห่งฎหมาย ป็นฎหมายลักษณะอักษช่น ฎหมามวรั รัฐธรนู
าชบัญญัติ าชกำนด กฤษฎีวง ทศบัญัติ ซึ่ ฎหมาดังกล่าว
ผู้มีอำนาแห่งรัรืผู้ปรอป็นผู้ออกกฎหมาย
2. จารีะเพณี ป็นแบย่างที่ปชาชนนิมปฏิบัติามกันมานาน หานำบัญัติป็นฎหมายลยลักษณ์อักษล้ย่มีภาพไป็นหมาย ช่น มวป็กีฬา หาชน ามติา หาคู่ชบาดเจ็าหัรือถึงแชีวิต ย่ม่ผิดานทำร้ร่างรือานฆ่าคาย อีณีนึ่งแพทย์รัาคนข้ ผ่าตัดขแขน ความยิมขข้ ย่ถือว่ม่มีความผิด เพป็จารีตปะเณีที่ปฏิบัติต่อกันมา ปฏิบัติามติรืฑ์รืาบณที่ กำหนดม่ถืว่าเป็นควาผิดทางฎหมาย
3. ป็ข้ห้แลข้ฏิบัติที่ดีทุก สนสอห้ป็ดี ช่ ห้ลัรัพย์ ห้ามผิดลูกเมีย ห้ามทำร้ผู้อื่ กฎหมยจึงได้บัญัติตามหลักแลมีกงโทษ
4. คำพิของศารือลักรรทัดนขงคำพิพซึ่งคำพิพกษาขงศาชั้สั่ป็นแทางที่ศาชั้นต้ต้อนำถืฏิบัติตัสิคดีหลัง ๆ ซึ่งแนวทางป็นตุแห่ง ความคิดข
ว่าทำจึตัสินคดีช่นนั้นำสู่กก้ไฎหมายในแวความคดีนี้ด้ จะต้อตามหลักควริงมาที่สุ
5. ความเห็นขนันิติศาตร์ ป็นดงความคิห็นขงว่ามคที่ะอกกฎหมาย ย่างนั้น มควรืม่ จึงทำห้นันิติศาร์ าจจะป็นาจย์ผู้มีชื่เสียในฎหมาได้แสดง ความคิดห็นว่าฎหมาฉบันั้นด้ ด็นที่น่าจเพื่ที่ก้ไฎหมายให้กิดปชน สูสุกับปชาชนดังกล่าว ช่น ฎหมายลักษะกาศช้หม่ บัญัติว่า ถืออาวุธ นนหวงม่มีความผิดถ้ม่มีะสุต่มาบิดาฎหมายได้ทขีธิบาตุว่า ถืออาวุในนหลวงมีข้ห้ามรืป็นความผิจึด้แก้ไฎหมาย ดังกล่าว
ง. ประเภทขฎหมาย
ตอบ ด้มีนัวิชาบ่หมว้าย ขั้นอยู่กัลักฑ์ใบ่ง งแต่
ละท่าน แบ่งปหมาที่นำไปใช้นั้นมีรูบบลักษะที่แตต่างกั เร
พิารณาแบ่งปเภทขงกฎมายออป็ลุ่มย่ บ่งได้หายลักษะขึ้ยู่กับว่าใช้ ะไ
ป็นหลักใแบ่ง ด้แก่
แบ่งแหล่กำเนิด แบ่งออกได้ป็นฎหมาภายในแลหมาภา ฎหมาภายใ
ป็นหลักใแบ่งย่ออกได้อี ช่น
แบ่งโดยถือเนื้อหาเป็นหลัก ป็ลักณ์อักษะกที่ม่ด้ป็ายลัณ์อั   แบ่งยถืภาบังคับฎหมาป็นหลั ป็นฎหมา ละกฎหมาพ่ แบ่งยถืลักษป็นหลักแบ่งด้ป็นฎหมายสบัญญัติ ละกฎหมาวิธีสบัญญัติ แบ่งโด ยยึดถื นะ    สัม พันธ์ ระ หว่ างรั กั บป นเ ป็นเ ฑ์ แบ่      ด้ ป็         หมามหาชน ฎหมาเอก      ฎหมาภา ป็นฎหมาหว่างปทศ ฎหมาหว่างปทศแบ่งามลักษะขะคามสัมพัธ์ ช่บ่งป็กฎมา   ภทดีเมื ส่ที่ว่าด้วความสัมพัธ์หว่รัต่อรั กฎหว่ ดีบุส่ที่ว่ด้สัพัธ์ว่บุคครันึ่กับุคคอีรันึ่ กฎว่างดีป็ที่ว่ด้ยข้ว่รัการ่มือ อย่างถอยที่ถอยปฏิบัติในการปราบปรามอาชญาระหว่างประเทศและส่งตัวผู้ร้ายข้ามให้แก่กัน (มคิด บางโม, 2548, 16-17 ;ภูมิชัย สุวรรณัแลคณ, 2543, 27-31 ; สกสัมพัธกล, 2546,
4-5 ; มานิตย ์จัมป,2542, 119 ; รีราชา จริญพานิ, 2548,118-119)
ซึ่งบ่งปเภทกฎมายที่ใช้ใทศไท ขึ้ยู่ใช้ลักใดจะข้ล่ยทั่ปดังนี้
.ฎหมาภายใ มีดังนี้
1. ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักษละไม่ป็นยลักษณ์อักษ
1.1 ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักษ แบ่งยยึนื้หาขฎหมาที่ปกฏป็นหลัผ่ะบบัญัติช่ รัธรนูชบัญัติ กฎายต่ พราชกำระราชฎีที่ด้รับเห็กรัรื ค์กา ริหาส่วนท้ถิ่ าศัอำนาจจกพาชบัญญัติ  ช่น ทศบัญญัติ
1.2 ยที่ป็ม่ป็นลลัณ์อั ป็ายที่มีได้มีกาบัญัติผ่ กระวนนิติบัญญัติ ช่น รีตณี หลักกฎหมาทั่ว
2. ฎหมาที่มีภาบังคับทาง ละกฎหมาที่มีภาบังคับทางแพ่
2.1 กฎยที่มีภาพบัคับท ะมกฎ 18 บัญัติโาง ช่ ชีวิจำคุกัขั รั รืริรัย์สิ ภาบัคับทจึป็นโย่างดอย่างนึ่รือย่ช้ษกัผู้ทำาง
2.2 กฎยที่มีาพบังคับทางพ่ด้บัญญัติถึาพบัคับลักษต่ง ๆ กัว้ สำรัผู้ฝ่าฝืนหรืม่ระทำามที่มาบัญัติว้ ช่ กำห้ป็ะกรรรือโยกรรกาบังคัห้ชำนี้ กาห้ใช้ค่าสียรือที่กฎย บังคับห้ทำย่างย่างหนึ่งพื่ความป็นรรม   นึ่สำรับังคับททางางพ่งบคู่กัปก็ได้ ช่ กฎมายที่ดิ พระราชบัญัติลิสิทธ าชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ละพาชบัญญัติกาล้อีกทั้ ยังมีภาพบังคับทารออี ตามะราชบัญัติวฏิบัติราชารทางปรอ.ศ. 2539
3. หมายสารบัญญัติ แลหมาวิธีสบัญัติ
3.1 กฎมายบัญญัติ บ่งยคำนึถึงบทบาทขงกฎมายป็นหลั ล่ถึงกาทาที่ฎหมายกำหนดป็นงค์ปะกบแห่งคามผิ รือป็สิธิ หน้าที่ะคามรัผิดบ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กฎหมายประสงค์จะควบคุมหรือคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจก่อให้เกิดผ มีบังคัที่รัรืผู้มีอำนาบัคับให้ป็ไปมกป็นผู้กำหนรกรทำผิ ตุณ์ที่เกิดขขากษระวาผิดมบกฎ กฎที่ กำหนดงค์ปะกบคามผิ กำหนดามร้ายแห่ทษจึป็กฎมายบัญัติช่นตัวบทกฎหมายในประมวลกฎหมายอาญาและในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกือบทุกมาตรา เป็นกฎหมารบัญญัติ
3.2 หมวิธีบัญัติ ล่าวถึ วิธีกรแลขั้ตอช้หมบัคัช่
มวลกฎหมาวิธีพิณาความ ซึ่นปกฎมายนี้กำหนดตั้แต่อำจหน้าที่ข เจ้นัานขรัดำนินคดี รร้องทุข์ กาล่ทษว่มีกาทำผิดกิดขึ้น กาวนดีเจ้าพนักงากาฟ้ร้องคดีต่ศา กาพิาคดี ะกาพิา คดีนศาล ก่ผู้ทำผิด สำรับคดีแพ่ กฎมายวิธีกาพิาคามพ่งะกำหน ขั้นตอต่าง ไว้ เป็นวิธีรดำนินคดีเริ่ตั้แต่ฟ้งคดีเรื่อยไปจนถึงศาพิาคดีละบังคับให้ ป็นไปคำพิากยังมีฎหมาบางฉบับมีทั้งที่ป็บัญญัติและวิธีสบัญัติทำห้ที่บ่งว่าป็ ประ ช่ พระรบัญญัติล้ มีทั้ลัฑ์ค์วิธีดำเนิดี ล้มละลยู่ด้ ที่ป็ไปกฎยปทให้ดูว่นั้นหนักไปทางกกว่กั
4. หมามหาชน ฎหมา
4.1ยม ป็มาที่กำามสัพัธิ์รว่รักับปาช รั
ป็นผุ้อำนาบังคับให้ะชาชฏิบัติตามกฎ พื่ห้เกิามงบรียบร้อก่สังค ป็ รื่องมืกาบคุมสังค คื กฎมายมด้แก่ กฎมายรัรรนูกำหนดบีแบแผช้อำธิย กำหนดสิธิแลน้าที่งปาช กฎหมาปกกำหนดแบ่งส่วนาชรเพื่ริหาทศ ละกริด้านต่าง ๆ แก่ชาชน พื่อคุ้มคงคามสัรัฐต้อผู้ฝ่ฝืนแกระทำผิ หรัวิธีและขั้นตอนที่าคมาทษทางบัญญัติว้ในกฎวิธีกพิจาณาควา บัญญัติอัป็นฎหมาที่ควบคุมและคุ้มครอสังคมห้กิดความงบสุขและป็นรร
4.2 ฎหมาเอป็กฎยที่มีความสัมพัธ์หว่าเอกชนด้ยกั ช่กฎายพ่งแลณิย์ าชบัญญัติบาฉบั ช่ชบัญัติริษั จำกัดเปิดโอกาสให้ประชาชนสร้างความสัมพันธ์เชิงกฎหมายระหว่างกันในรูปของการทานตกรรม สัญญ มีผต่อคู่ณีห้มีฎหมคุ้มครอทั้ 2 ฝ่ายมีผูกพั ยกาทำสัญญฏิบัติต ฎหมาบทุะการ ถ้าฝ่ายใดฝ่าหนึ่งปปฏิบัติตามหน้าที่ย่ถูกฟ้งบังคับห้ปฏิบัติตามด้
ข. ฎหมาภา มีดังนี้
1. ฎหมาหว่างปทศแผนคดีมื ป็นมายที่ว่ด้วยคามสัมพัธ์หว่างรั ต่อรัฐในที่ต้องปฏิบัติต่กันแะกั นฐะที่รัฐเป็นนิติบุคคกฎมายหว่างป ซึ่งมีเกฑ์กำกล่วคื1) ระชานร่กัอยู่ป็กลุ่ก่ ปึผ่ รียกว่มื2)ต้องมีดินแดนหรืออาณาที่แน่นน3) มีปกรอป็นบียบบบแผน4) ป็นเอช 5) มีธิช่บัรสาชาติ ธิสัญญข้ค้ากฎหมยที่ป็นจรีณีที่ยึถืฏิบัติกั รัทุกรัฐต่เห็น ช่ ลักาต่ตั้อัาชทูต เสิธ์ในทาทูต
2. กฎมายหว่างปทศแผนกคดีบุคคป็ข้บังคับทว่ด้วยความสัมพัธ์หว่บุ คค ลใ นรั ฐต่างรั ฐ เ ช่ นพ ะร าชบั ญญั ติว่าด้ วยการขัดแ ย้ง แห่งก ฎห มา ยเ ป็ นการบังคับความสัพัธ์งบุคคที่ยู่ในปทศยกับบุคคที่ยู่ใรัฐอื่
3. ฎหมาหว่างปทศแผนคดี ป็ข้อบังคับที่ประเทศหนึ่งหรือรัฐหนึ่งกลงยอมรับให้ศาลส่วนอาญาของอีกรัฐหนึ่งมีอำนาจในการพิจาณาลงโทษอาญาแก่บุคคลที่ได้กระทำผิดนทศ
นั้นด้ ช่น ธิสัญญส่งผู้ร้ข้ามแดน
4. ท่านมีความคิดห็นย่าง ว่า ทำมทุทศจำเป็นต้องมีฎหมาย จงธิบาย
ตอบ เพราะว่าทุกประเทศจะต้องมีการเมืองการปกครอง ต้องมีการพัฒนาประเทศและ จะต้องอาศัยอยู่
ด้วยกันเป็นจำนวนมากดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะจะทำให้ประเทศมีระเบียบไม่วุ่นวาย
ที่สำคัญคือต้องพัฒนาประเทศอยู่ตลอดเวลาเพราะกฎหมายเปรียบเสมือนหัวใจหลักของการพัฒนา
5. ภาบังคับนทางฎหมาท่านมีความข้าจอย่าง จงธิบาย
ตอบ สภาพบังคับในทางกฎหมายคือเป็นกฎหมายข้อบังคับที่จะต้องปฏิบัติตาม เป็นการจัดลำดับแห่งคำบังคับของกฎหมายหรืออาจ ล่ด้ว่ศัยอำค์กรที่ใช้อำค์กรที่ต่กัน ในรจัลำดับมีรจัย่าง ซึ่ต้อาศัลักว่า กฎมายรื บทบัญญัติด้ขฎหมาที่ยู่ในลำดับที่ต่ำวา ขัดหรือย้กัฎหมายใลำดับทสูงกว่าไม่ได้
6. สภาบังคับฎหมายใาและทางแพ่ มีความหมืนหรือต่างกัย่าง
ตอบ แตกต่างกัน เพราะ
- กฎหมายอาญา ผู้ที่กระทำความผิดจะต้องรับโทษ เช่น รอลงอาญา ปรับ จำคุก กีกขัง ริมทรัพย์ บังคับทางอาญาจะเป็นการทำโทษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างต่อบุคคลที่กระทำความผิดทางอาญาแต่กฎหมายทางแพ่งได้บังคับลักษณะต่างๆกันไว้สำหรับลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย เช่น การกำหนดให้ชำระหนี้ การให้ชดใช้ค่าเสียหาย หรือการที่กำหมายบังคับให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อความเป็นธรรม
7. ระบบฎหมาป็นย่าง ธิบาย
ตอบบบขฎหมาย แบ่งป็น 2 บบดังนี้ (นิ สุริ, 2525, 51-57; คิ บางโม, 2546, 15-16)
1. ะบบลล (Civil Law System) รือระบบลยลักษอักษถืกำเนิดขึ้วี ยุโรปรา
ริศตวรที่ 12 ป็นะบบเอาจา Jus Civile” ช้แยกควา Jus Gentium โร
ซึ่ลักษะพิล่คืป็ายลัณ์อัที่มีสำคัว่ย่อัคำพิพา
ษาม่ใช้ที่มกฎมา ต่ป็ทัย่งขงกตีกฎ ท่านั้ริ่
ต้นากตับทกมาป็สำคั ะถือเอคำพิพกษารืมคดีห็นนักกฎมาย
ป็นหลักไม่ได้ ยังถืว่ กฎมายกชนแะกฎมายมาชนเป็ส่วนกั วินิฉัคดี
ผู้พิพกษป็นผู้ตัสินชี้ขาด กลุ่มปทศที่ช้ฎหมานี้ปรทศยุโรช่ อิลี อรมัน รั่ศส วิตเอร์นด์ ละทศวันออ ช่น ทย ญี่ปุ่น
2. บคอมมอว์ (Common Law System) กิดและวิวันาขึ้นนปทศอังก มีหง้า
จากศักดิ์น ซึ่ต้งกล่ถึงคำว่ คคิตี้ (equity) ป็นะบวนรเข้าไปริ ต่ห้คมม
ว์เป็นพันามากกฎหมาที่ม่ป็นลักษณ์อักษ นำเรีณีละคำพิ
ซึ่ป็นบรรทังศาลสมัย ก่ามาใช้ จนะทั่งป็ะบบกฎมายที่มีคมบูณ์ตัเอ
กาวินิจฉัยต้าศัยคลูกขุนเป็นผู้ตัดสิชี้ขา ทศที่ใช้ะบบกฎมายนี้ ช่น อักฤ
รัเมริกา ะเทศรือจักรภอักฤ
8. ยมลักกบ่ย่ไรบ้มีกี่ป ต่ละทประกด้
อะไรบ้าง ยกตัย่างอธิบาย
ตอบ ด้มีนัวิชาบ่หมว้ ขึ้นอยู่กัลักฑ์ใบ่ งแต่ละท่าน แบ่งปหมาที่นำไปใช้นั้นมีรูบบลักษะที่แตต่างกั เระพิารณาแบ่งปเภทขงกฎมายออป็ลุ่มย บ่งได้หายลักษะขึ้ยู่กับว่าใช้ ะไรเป็นหลักใแบ่ง ด้แก่แบ่งแหล่กำนิด แบ่งออกได้ป็นฎหมาภายในแลหมาภา ฎหมาภายใป็นหลักใแบ่งย่ออกได้อี ช่น
- แบ่งโดยยึดถือเนื้อหาเป็นหลัก ป็ลักณ์อักษะกที่ม่ด้ป็ายลัณ์อั
- แบ่งยถืภาบังคับฎหมาป็นหลั ป็นฎหมา ละกฎหมาพ่ แบ่งยถืลักษป็นหลั แบ่งด้ป็น ฎหมายสบัญญัติ ละกฎหมาวิธีสบัญญัติ แบ่งโด ยถื นะ สัม พันธ์ ระ หว่ างรั กั บป นเ ป็นเ ฑ์ แบ่ด้ ป็
หมามหาชน ฎหมาเอก
ฎหมาภา ป็นฎหมาหว่างปทศ ฎหมาหวางปทศแบ่งามลักษะขะคามสัมพัธ์ ช่บ่งป็กฎมา
ภทดีเมื ส่ที่ว่าด้วความสัมพัธ์หว่รัต่อรั กฎหว่ ดีบุส่ที่ว่ด้สัพัธ์ว่บุคครันึ่กับุคคอีรันึ่ กฎว่างดีป็ที่ว่ด้ยข้ว่รัการ่มือ อย่างถอยที่ถอยปฏิบัติในการปราบปรามอาชญาระหว่างประเทศและส่งตัวผู้ร้ายข้ามให้แก่กัน (มคด บางโม, 2548, 16-17 ;ภูมชย สวรรแลคณ, 2543, 27-31 ; สกุสัมพธกล, 2546,4-5 ; มานิตย์มป,2542, 119 ; รราชา จริญพานิช, 2548,118-119) ซึ่งบ่งปเภทกฎมายที่ใช้ใทศไท ขึ้ยู่ใช้ลักใดจะข้ล่ยทั่ปดังนี้
.ฎหมาภายใ มีดังนี้
1. ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักละไม่ป็นยลักษณ์อักษ
1.1 ฎหมาที่ป็นยลักษณ์อักษ แบ่งยยึนื้หาขฎหมาที่ปกฏป็นหลั   ผ่ะบบัญัติช่ รัธรนูชบัญัติ กฎายต่ พราชกำระราชฎีที่ด้รับเห็กรัรืค์กา ริหาส่วนท้ถิ่ าศอำนาจจกพาชบัญญัติ ช่น ทศบัญญัติ
1.2 ยที่ป็ม่ป็นลลัณ์อั ป็ายที่ไม่ด้มีกาบัญัติผ่นกระวนนิติบัญญัติ ช่น รีตณี หลักกฎหมาทั่ว
2. ฎหมาที่มีภาบังคับทาง ละกฎหมาที่มีภาบังคับทางแพ่
2.1 กฎยที่มีภาพบัคับท ะมกฎ 18 บัญัติโาง ช่ ชีวิจำคุกัขั รั รืริรัย์สิ ภา
บัคับทจึป็นโย่างดอย่างนึ่รือย่ช้ษกัผู้ทำผิาง
2.2 กฎยทมาพบังคับทางพ่ด้บัญญัติถึาพบัคับลักษต่ง ๆ กัว้ สำรัผู้ที่ฝ่าฝืนหรืม่ระทำามที่มาบัญัติว้  ช่ กำห้ป็ะกรรรือโยกรรกาบังคัห้ชำนี้ กาห้ใช้คำสีย หรือที่กฎยบังคับห้ทำย่างย่างหนึ่งพื่ความป็นรร
นึ่สำรับังคับทั้ทางางพ่งบคู่กัปก็ได้ ช่ กฎมายที่ดิ พระราชบัญัติลิสิทธ์ าชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ละพาชบัญญัติกาล้อีกทั่ ยังมีภาพบังคับทารออี ตามะราชบัญัติวิธีฏิบัติราชารทางปรอ.ศ. 2539
3. หมายสารบัญญัติ แลหมาวิธีสบัญัติ
3.1 กฎมายบัญญัติ บ่งยคำนึถึงบทบาทขงกฎมายป็นหลั ล่ถึงกาทำฎหมายกำหนดป็นงค์ปะกบแห่งคามผิ รือป็สิธิ หน้าที่ะคามรัผิดบ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กฎหมายประสงค์จะควบคุมหรือคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน ซึ่งจก่อให้เกิดผ มีบังคัที่รัรืผู้มีอำนาบัคับให้ป็ไปมกป็นผู้กำหนรกรทำผิ ณ์ที่เกิดขึ้ข้าลักษค์ระวาผิดมบกฎ กฎที่กำหนดงค์ปะกบคามผิ ะกำหนดามร้ายแห่ทษจึป็กฎมายบัญัติช่นตัวบทกฎหมายในประมวลกฎหมายอาญาและในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกือบทุกมาตรา เป็นกฎหมารบัญญัติ
3.2 หมวิธีบัญัติ ล่าวถึ วิธีกรแลขั้ตอช้หมบัคัช่
มวลกฎหมาวิธีพิณาความ ซึนปกฎมายนี้กำหนดตั้แต่อำจหน้าที่ข เจ้นัานขรัดำนินคดี รร้องทุข์ กาล่ทษว่มีกาทำผิดกิดขึ้น กาวนดีเจ้าพนักงากาฟ้ร้องคดีต่ศา กาพิาคดี ะกาพิาคดีนศาล ก่ผู้ทำผิด สำรับคดีแพ่ กฎมายวิธีกาพิาคามพ่งะกำหน ขั้นตอต่าง ไว้ เป็นวิธีรดำนินคดีเริ่ตั้แต่ฟ้งคดีเรื่อยไปจนถึงศาพิาคดีละบังคับให้ ป็นไปคำพิษายังมีฎหมาบางฉบับมีทั้งที่ป็บัญญัติและวิธีสบัญัติทำห้ที่บ่งว่าป็ ประ ช่ พระรบัญญัติล้ มีทั้ลัฑ์ค์วีธีดำเนิดี ล้มละลร่ยู่ด้ ที่ป็ไปกฎยปทให้ดูว่นั้นหนักไปทางกกว่กั
4. หมามหาชน ฎหมา
4.1ยม ป็มาที่กำามสัพัธ์รว่รักับปาชน รั
ป็นผู้มีอำบังคับให้ะชาชฏิบัติตามกฎาย พื่ห้เกิามงบรียบร้อก่สังคม ป็ รื่องมืกาบคุมสังคม คือ กฎมายมชน ได้แก่ กฎมายรัรรนูญ กำหนดบีแบแผช้อำธิย กำหนดสิธิแลน้าที่งปาช กฎหมาปกกำหนดแบ่งส่วนาชรเพื่ริหาทศ ละกริด้านต่าง ๆ แก่ชาชน พื่อคุ้มคงคามรัฐต้อผู้ฝ่ฝืนแกระทำผิ สำหรัวิธี ละขั้นตอนที่าคมาทษทางา บัญญัติว้ในกฎวิธีกพิจาณาควา ละบัญญัติอื่ ป็นฎหมาที่ควบคุมและคุ้มครอสังคมห้กิดความงบสุขและป็นรร
4.2 ฎหมาเอป็กฎยที่มีความสัมพัธ์หว่าเอกชนด้ยกั ช่
กฎายพ่งแลณิย์ าชบัญญัติบาฉบับ ช่ชบัญัติริษัชน จำกัดเปิดโอกาสให้ประชาชนสร้างความสัมพันธ์เชิงกฎหมายระหว่างกันในรูปของการทำนัตกรรม สัญญ มีผต่อคู่ณีหม่ฎหมคุ้มครอทั้งง 2 ฝ่ายมีผูกพันโยกาทำสัญญฏิบัติตฎหมาบทุะการ ถ้าฝ่ายใดฝ่าหนึ่งปปฏิบัติตามหน้าที่ย่ถูกฟงบังคับห้ปฏิบัติตามด้
ข. ฎหมาภา มีดังนี้
1. ฎหมาหว่างปทศแผนคดีมื ป็นมายที่ว่ด้วยคามสัมพัธ์ระหว่างรัต่อรฐ
ที่ต้องปฏิบัติต่กันแะกันฐะที่รัฐเป็นนิติบุคคกฎมายหว่างป ซึ่งมีเกฑ์กำกล่วคื
1) ระชานร่กัอยู่ป็กลุ่ก้ ปึผ่ รียกว่ มื
2) ต้องมีดินแดนหรืออาณาที่แน่น
3) มีปกรอป็นบียบบบแผ
4) ป็นเอ
5) มี ธิ ช่ บัรสาชาติ ธิสัญญข้ค้ากฎหมยที่ป็นจรีณีที่ยึถืฏิบัติกั รัทุกรัฐต่เห็น ช่ ลักาต่ตั้อัาชทูต เสิธิในทาทูต
2. กฎมายหว่างปทศแผนกคดีบุคคล ป็ข้บังคับที่ว่ด้วยความสัมพัธ์หว่าง
บุคคลในรัฐต่างรั ฐ เ ช่ นพ ะราชบั ญญั ติว่ าด้วยการขั แย้ งแ ห่ง กฎหมายเป็นการบังคับความสัพัธ์งบุคคที่ยู่ในปทศยกับบุคคที่ยู่ใรัฐอื่
3. ฎหมาหว่างปทศแผนคดี ป็ข้อบังคับที่ประเทศหนึ่งหรือรัฐหนึ่งกลงยอมรับให้
ศาลส่วนอาญาของอีกรัฐหนึ่งมีอำนาจในการพิจาณาลงโทษอาญาแก่บุคคลที่ได้กระทำผิดนทศ
นั้นด้ ช่น ธิสัญญส่งผู้ร้ข้ามแดน
9. ท่านข้าถึงคำว่าศัดิ์ขฎหมาคืออะไ มีแบ่งย่าง
ตอบ เป็นการจัดลำดับแห่งคำบังคับของกฎหมายหรืออาจ ล่ด้ว่ศัอำกรที่ใช้อำค์รที่ต่กัซึ่ต้อาศัลักว่า กฎมายรื บทบัญญัติดขฎหมาที่ยู่ใาดับทต่ำว่า ขัดหรือย้กัฎหมายใลำดับที่สูงกว่าไม่ได้ ะพิย่างไ พิากค์กที่มีอำกาออกกมาเหตุ ที่ว่า (1) กรออฎหมาดยฝ่านิติบัญัติ ควรจป็นฎหมาพาะที่สำคั ป็กากำหนหัลกกละยบท่นั้ ชบัญญัติที่รัซึ่ป็ตันขวง (2) กาห้รั ป็กาทันเ ะทนต่ามต้งกาะคามจำเป็สังค (3) ฝ่ ริหารือองค์กรอื่นจออกกฎมายแต้ยู่รองหลักกานำนยบยใกฎย หลักฉบับนี้
10. ตุณ์มื่วันที่ 24 พฤศจ 2555 มีตุณ์ชุนุะช านะบ
รูปทงม้า และชาชนด้ปะกาศว่ามีชุมย่างงบ ต่กฏว่ารัฐบาะกาศป็ขตพื้นที่ห้ามชุมนุม ละขัดขางม่ห้ระชนชุมนุย่ มืทำร้ยร่ ประชา
ในานท่านเรีนวิชานี้ท่านธิบาตุว่า รัฐบาลกทำผิดหรือถู
ตอบ ดิฉันคิดว่าผิด เพราะในเมื่อประชาชนประกาศแล้วว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่สงบ รัฐบาลจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นได้เรียกร้องความยุติธรรม รัฐบาลเพียงคอยตรวจค่อยดูเรื่องความเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นได้ก็เพียงพอ
11. ท่านมีความรู้ความข้าจเกี่ยกั คำว่า ฎหมายกศึกษย่าง ธิบาย
ตอบ กฎหมายการศึกษา ป็นบบัญญัติามรัรรนูด้กำหนห้มี กาศึกขั้ที่ชื่มโยกับรันูว่ด้กาศึกคื ป็รืคำสั่รือ ข้บังคับขรัฐเกี่ยวข้งกับการศึกษารัฐที่กี่ยวข้งกับกาศึกษาที่สถาบันหรือหน่วยงานผู้มีอำด้ตาขึ้บังคับใช้ ถืว่ากฎยทางรศึกษาฉบับคื ชบัญญัติศึกษาแห่ติ
12. านที่นัศึกษต้อเรีนวิชานี้ ถ้เรม่ศึกษฎหมายกศึกษาท่านคิดว่ามื่ท่าน ะกาชีครู มีผลกทบต่อทานย่างบ้าง
ตอบ กฎหมายการศึกษานั้นเป็นสิ่งจำเป็นกับครูมาก เช่นกฎหมายเกี่ยวกับการตีเด็กกฎหมายว่าอย่างไรถ้าเราไม่รู้ไม่เรียนกฎหมายมาก่อนเราก็จะทำไม่ถูก เพราะเราเป็นครูในอนาคตเพราะฉะนั้นเราจะต้องใช้กฎหมาย ถ้าไม่รู้กฎหมายก็จะทำให้เราเกิดผลกระทบในหลายๆด้านเช่นผลกระทบด้านการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กในอนาคต
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น